ม.ล.เนื่อง นิลรัตน์ กล่าวว่า ผู้ได้ชื่อว่า ''ทำกับข้าวเป็น'' จะต้องมาจากการฝึกทำบ่อยๆ รู้จักปรับรสชาติที่ไม่เข้าที่เข้าทางให้กลมกล่อมตามสูตรดั้งเดิม ยิ่งไปกว่านั้น เสน่ห์ปลายจวักยังอยู่ที่การคาดคะเนเป็น เพราะพริก หอม กระเทียม เครื่องปรุงต่างๆ นั้นก็มีขนาดเล็ก-ใหญ่ ไม่เท่ากัน กับข้าวในวังก็เหมือนกับที่กินกันทั่วไป แต่อร่อยที่การปรุงรส อาหารทุกอย่างมีขั้นตอนที่คนปรุงต้องเรียนรู้และฝึกฝน





M.L. Nueang Nilrat is a person who defines the term "good cooking" or in other words is "a person who really knows how to cook" this consists of practicing often and learning how to add flavours according to traditional recipes. Moreover, the charm of cooking is being able to estimate the various sizes of ingredients, such as chillies to onion and garlic that gives different degrees of taste. Royal cuisine does not distinguish itself from general Thai cuisine but for the differences in the amounts of ingredients added this gives Royal cuisine its distinct flavours. All the kinds of food that we cook have their own unique methods that depend on the cooks know how.



Saturday, July 2, 2011

งานเขียนชิ้นแรก ~จบ~

ม.ล. เนื่อง นิลรัตน์


ม.ร.ว. ศรีคำ ทองแถม


          ข้าพเจ้าจึงเข้าใจซึ้งว่า เขาก็รักปราถนาดีต่อเราไม่น้อยเลย ต่อมาข้าพเจ้าพาตัวพระเอกของข้าพเจ้าไปให้ดู โดยเรานัดกันไปเที่ยวชลบุรี มี คุณหญิง ม.ร.ว. เกื้อกมล สวัสดิ์สรยุทธ ไปด้วย คุณหญิงศรีคำจึงได้เห็นพระเอกของข้าพเจ้า เขาว่า พี่เนื่องเธอนี่ยังโกหกเหมือนเมื่อเด็กๆ นะแก้ไม่หาย
          จากนั้นเราก็ไปมาหาสู่กัน ไปทำบุญที่ไหนเราก็ไปด้วยกันทั้งใกล้และไกล เมื่อประมาณ ๒ ปีมานี้ ได้ทราบว่าไม่ใคร่สบายเบื่ออาหาร ข้าพเจ้าก็ทำอาหารเลือกเอาแต่ที่คุณหญิงชอบส่งไปให้ทานที่บ้านเป็นนิจสิน ด้วยรู้ว่าคนไม่สบายมักเบื่ออาหารบ้านตัวเอง หลังจากที่รักษาย้ายไปหลายแห่ง อาการไม่ดีขึ้นเลย ก็เข้ารับการรักษายังโรงพยาบาลสมิติเวช กินยาก็แล้วผ่าตัดก็แล้ว ไปนอนโรงพยาบาลสมิติเวชตั้ง ๒-๓ ครั้ง ช่วยให้หายไม่ได้มีแต่ทุเลาเป็นครั้งคราว ใครบอกว่ามียาดีอยู่ที่ไหน ไกลเท่าไหร่ก็ไปซื้อมากิน ยาต้มหม้อละ ๔-๕ พันบาทก็ซื้อ กิน ๓-๔ หม้อยิ่งทรุดลงไป คุณหมอกำชัย ลูกชายคุณหญิงเป็นหมอประจำอยู่โรงพยาบาลราชบุรี ภรรยาคุณหมอก็เป็นพยาบาลอยู่โรงพยาบาลราชบุรีเหมือนกัน ได้ตรวจว่าโรคที่เป็นนี้ไม่มีทางรักษาให้หายได้แล้วนอกจากเทวดาจะมาโปรด จึงชี้แจงขอให้คุณแม่ไปนอนเจ็บสะดวกแก่การดูแลเอาใจใส่ ซึ่งคุณหญิงก็ยินยอมสมัครใจไป ข้าพเจ้ากลัวการเดินทางโดยรถประจำทางจึงไม่กล้าไปเยี่ยม คุณพิศมัยเพื่อนบ้านที่ชอบกันมากไปเยี่ยม เธอก็ว่ามากับคุณพิศมัยว่า พี่เนื่องใจดำจึงไม่มาเยี่ยมเลย คุณพิศมัยมาเล่าให้ข้าพเจ้าฟัง แล้วบอกว่า ถ้าพี่เนื่องไม่ไปเยี่ยมในวันสองวันนี้ กลัวว่าจะไม่ได้พบเห็นกันอีกเลย ข้าพเจ้าตกใจมากเลิกกลัวอะไรๆ หมด วานคุณพิศมัยให้ช่วยพาไปเร็ว รุ่งขึ้นวันที่ ๒ มกราคม เราก็ไปกัน ๒ คน ไปถึงโรงพยาบาลราชบุรีเกือบ ๑๓.๐๐ น. ไปถึงคุณหญิงไม่พูดเสียแล้ว เห็นข้าพเจ้าเข้าร้องไห้น้ำตาไหลเป็นทาง ข้าพเจ้าก็ปลอบใจไว้สุดแต่จะหาคำพูดได้ในขณะนั้นและนั่งอยู่ด้วยจนบ่าย ๔ โมงเย็น จึงจากมาขากลับข้าพเจ้าเข้าไปลาก็ร้องไห้อีก คงจะได้รู้ตัวว่า เราต้องจากกันอย่างไม่มีวันพบเห็นกันอีกต่อไป รุ่งเช้าวันที่ ๓ มกราคม ข้าพเจ้าก็ได้รับข่าวร้ายว่า คุณหญิงศรีคำ ถึงแก่กรรมเสียแล้ว คล้ายกับจะเจ็บรอให้ข้าพเจ้าไปเยี่ยม พอพบหน้ากันแล้วก็จากกันไปเลย ท่านผู้มีเกียรติทั้งหลายอ่านเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนมาทั้งหมดก็ย่อมจะเข้าใจเองว่า ข้าพเจ้าทุกข์ร้อน-เสียดาย-เสียใจ สักแค่ไหนเกินกว่าที่จะบอกเล่าออกมาเป็นคำพูด จึงขอจบเรื่องด้วยชีวิตที่ปิดฉากลงไปแล้ว

                            กราบสวัสดี แด่ท่านที่ทนอ่านทุกๆ ท่าน
                            ม.ล. เนื่อง นิลรัตน์

          จบแล้วค่ะงานเขียนชิ้นแรกของคุณย่า สอบถามจากป้า (นิจ เหลี่ยมอุไร) ว่าคุณย่าทำอาหารอะไรส่งไปให้คุณหญิงศรีคำ ป้าบอกว่า คุณหญิงศรีคำชอบแกงคั่วเห็ดฟางพริกขี้หนูสดมาก ข้าวตัง-เมี่ยงลาวกับสาคูไส้ปลาก็ชอบ ป้ายังเล่าต่ออีกว่า คุณหญิงศรีคำเชี่ยวชาญการทำกระท้อนลอยแก้ว ป้ายังได้วิชาการทำกระท้อนลอยแก้วมาจากคุณหญิงเลย อีกอย่างคือ กะหรี่พัฟ คุณหญิงไปเรียนมาจากที่ไหนไม่รู้ เสียค่าเรียนไป ๕๐๐ บาท เรียนเสร็จแล้วก็มาสอนป้าต่อ ช่วงนี้เป็นหน้ากระท้อน แพงทำกระท้อนลอยแก้วสิ เดี๋ยวป้าบอกวิธีทำให้
            กระท้อนลอยแก้ว
เครื่องปรุง
          กระท้อน                        ผล
          น้ำตาลทราย            ๕๐๐   กรัม
          เกลือป่น                         ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
          เชื่อมน้ำตาลให้ข้นเตรียมไว้ ละลายเกลือด้วยน้ำ ๓ ถ้วย ปอกกระท้อน ฝานเป็นชิ้นๆ นำไปแช่น้ำเกลือประมาณ ๑ ชั่วโมง แล้วบีบน้ำเกลือออก ใส่ลงในน้ำเชื่อมที่เตรียมไว้ แช่ทิ้งไว้ประมาณ ๒ ชั่วโมง ทุบน้ำแข็งใส่รับประทานได้

กระท้อน

ปอกกระท้อน ฝานเป็นชิ้นๆ แช่ในน้ำเกลือ

กระท้อนแช่ในน้ำเชื่อม

กระท้อนลอยแก้ว

No comments: