ม.ล. เนื่อง นิลรัตน์
ม.ร.ว. ศรีคำ ทองแถม
ข้าพเจ้าจึงเข้าใจซึ้งว่า เขาก็รักปราถนาดีต่อเราไม่น้อยเลย ต่อมาข้าพเจ้าพาตัวพระเอกของข้าพเจ้าไปให้ดู โดยเรานัดกันไปเที่ยวชลบุรี มี คุณหญิง ม.ร.ว. เกื้อกมล สวัสดิ์สรยุทธ ไปด้วย คุณหญิงศรีคำจึงได้เห็นพระเอกของข้าพเจ้า เขาว่า “พี่เนื่องเธอนี่ยังโกหกเหมือนเมื่อเด็กๆ นะแก้ไม่หาย”
จากนั้นเราก็ไปมาหาสู่กัน ไปทำบุญที่ไหนเราก็ไปด้วยกันทั้งใกล้และไกล เมื่อประมาณ ๒ ปีมานี้ ได้ทราบว่าไม่ใคร่สบายเบื่ออาหาร ข้าพเจ้าก็ทำอาหารเลือกเอาแต่ที่คุณหญิงชอบส่งไปให้ทานที่บ้านเป็นนิจสิน ด้วยรู้ว่าคนไม่สบายมักเบื่ออาหารบ้านตัวเอง หลังจากที่รักษาย้ายไปหลายแห่ง อาการไม่ดีขึ้นเลย ก็เข้ารับการรักษายังโรงพยาบาลสมิติเวช กินยาก็แล้วผ่าตัดก็แล้ว ไปนอนโรงพยาบาลสมิติเวชตั้ง ๒-๓ ครั้ง ช่วยให้หายไม่ได้มีแต่ทุเลาเป็นครั้งคราว ใครบอกว่ามียาดีอยู่ที่ไหน ไกลเท่าไหร่ก็ไปซื้อมากิน ยาต้มหม้อละ ๔-๕ พันบาทก็ซื้อ กิน ๓-๔ หม้อยิ่งทรุดลงไป คุณหมอกำชัย ลูกชายคุณหญิงเป็นหมอประจำอยู่โรงพยาบาลราชบุรี ภรรยาคุณหมอก็เป็นพยาบาลอยู่โรงพยาบาลราชบุรีเหมือนกัน ได้ตรวจว่าโรคที่เป็นนี้ไม่มีทางรักษาให้หายได้แล้วนอกจากเทวดาจะมาโปรด จึงชี้แจงขอให้คุณแม่ไปนอนเจ็บสะดวกแก่การดูแลเอาใจใส่ ซึ่งคุณหญิงก็ยินยอมสมัครใจไป ข้าพเจ้ากลัวการเดินทางโดยรถประจำทางจึงไม่กล้าไปเยี่ยม คุณพิศมัยเพื่อนบ้านที่ชอบกันมากไปเยี่ยม เธอก็ว่ามากับคุณพิศมัยว่า “พี่เนื่องใจดำจึงไม่มาเยี่ยมเลย” คุณพิศมัยมาเล่าให้ข้าพเจ้าฟัง แล้วบอกว่า “ถ้าพี่เนื่องไม่ไปเยี่ยมในวันสองวันนี้ กลัวว่าจะไม่ได้พบเห็นกันอีกเลย” ข้าพเจ้าตกใจมากเลิกกลัวอะไรๆ หมด วานคุณพิศมัยให้ช่วยพาไปเร็ว รุ่งขึ้นวันที่ ๒ มกราคม เราก็ไปกัน ๒ คน ไปถึงโรงพยาบาลราชบุรีเกือบ ๑๓.๐๐ น. ไปถึงคุณหญิงไม่พูดเสียแล้ว เห็นข้าพเจ้าเข้าร้องไห้น้ำตาไหลเป็นทาง ข้าพเจ้าก็ปลอบใจไว้สุดแต่จะหาคำพูดได้ในขณะนั้นและนั่งอยู่ด้วยจนบ่าย ๔ โมงเย็น จึงจากมาขากลับข้าพเจ้าเข้าไปลาก็ร้องไห้อีก คงจะได้รู้ตัวว่า เราต้องจากกันอย่างไม่มีวันพบเห็นกันอีกต่อไป รุ่งเช้าวันที่ ๓ มกราคม ข้าพเจ้าก็ได้รับข่าวร้ายว่า คุณหญิงศรีคำ ถึงแก่กรรมเสียแล้ว คล้ายกับจะเจ็บรอให้ข้าพเจ้าไปเยี่ยม พอพบหน้ากันแล้วก็จากกันไปเลย ท่านผู้มีเกียรติทั้งหลายอ่านเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนมาทั้งหมดก็ย่อมจะเข้าใจเองว่า ข้าพเจ้าทุกข์ร้อน-เสียดาย-เสียใจ สักแค่ไหนเกินกว่าที่จะบอกเล่าออกมาเป็นคำพูด จึงขอจบเรื่องด้วยชีวิตที่ปิดฉากลงไปแล้ว
กราบสวัสดี แด่ท่านที่ทนอ่านทุกๆ ท่าน
ม.ล. เนื่อง นิลรัตน์
จบแล้วค่ะงานเขียนชิ้นแรกของคุณย่า สอบถามจากป้า (นิจ เหลี่ยมอุไร) ว่าคุณย่าทำอาหารอะไรส่งไปให้คุณหญิงศรีคำ ป้าบอกว่า “คุณหญิงศรีคำชอบแกงคั่วเห็ดฟางพริกขี้หนูสดมาก ข้าวตัง-เมี่ยงลาวกับสาคูไส้ปลาก็ชอบ” ป้ายังเล่าต่ออีกว่า “คุณหญิงศรีคำเชี่ยวชาญการทำกระท้อนลอยแก้ว ป้ายังได้วิชาการทำกระท้อนลอยแก้วมาจากคุณหญิงเลย อีกอย่างคือ กะหรี่พัฟ คุณหญิงไปเรียนมาจากที่ไหนไม่รู้ เสียค่าเรียนไป ๕๐๐ บาท เรียนเสร็จแล้วก็มาสอนป้าต่อ ช่วงนี้เป็นหน้ากระท้อน แพงทำกระท้อนลอยแก้วสิ เดี๋ยวป้าบอกวิธีทำให้”
กระท้อนลอยแก้ว
เครื่องปรุง
กระท้อน ๕ ผล
น้ำตาลทราย ๕๐๐ กรัม
เกลือป่น ๒ ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
เชื่อมน้ำตาลให้ข้นเตรียมไว้ ละลายเกลือด้วยน้ำ ๓ ถ้วย ปอกกระท้อน ฝานเป็นชิ้นๆ นำไปแช่น้ำเกลือประมาณ ๑ ชั่วโมง แล้วบีบน้ำเกลือออก ใส่ลงในน้ำเชื่อมที่เตรียมไว้ แช่ทิ้งไว้ประมาณ ๒ ชั่วโมง ทุบน้ำแข็งใส่รับประทานได้
กระท้อน
ปอกกระท้อน ฝานเป็นชิ้นๆ แช่ในน้ำเกลือ
กระท้อนแช่ในน้ำเชื่อม
กระท้อนลอยแก้ว
No comments:
Post a Comment