ม.ล.เนื่อง นิลรัตน์ กล่าวว่า ผู้ได้ชื่อว่า ''ทำกับข้าวเป็น'' จะต้องมาจากการฝึกทำบ่อยๆ รู้จักปรับรสชาติที่ไม่เข้าที่เข้าทางให้กลมกล่อมตามสูตรดั้งเดิม ยิ่งไปกว่านั้น เสน่ห์ปลายจวักยังอยู่ที่การคาดคะเนเป็น เพราะพริก หอม กระเทียม เครื่องปรุงต่างๆ นั้นก็มีขนาดเล็ก-ใหญ่ ไม่เท่ากัน กับข้าวในวังก็เหมือนกับที่กินกันทั่วไป แต่อร่อยที่การปรุงรส อาหารทุกอย่างมีขั้นตอนที่คนปรุงต้องเรียนรู้และฝึกฝน





M.L. Nueang Nilrat is a person who defines the term "good cooking" or in other words is "a person who really knows how to cook" this consists of practicing often and learning how to add flavours according to traditional recipes. Moreover, the charm of cooking is being able to estimate the various sizes of ingredients, such as chillies to onion and garlic that gives different degrees of taste. Royal cuisine does not distinguish itself from general Thai cuisine but for the differences in the amounts of ingredients added this gives Royal cuisine its distinct flavours. All the kinds of food that we cook have their own unique methods that depend on the cooks know how.



Monday, June 6, 2011

งานเขียนชิ้นแรก ๖

ม.ล. เนื่อง นิลรัตน์

ม.ร.ว. เกื้อกมล (นันทวัน) สวัสดิ์สรยุทธ

 ม.ล. เนื่อง นิลรัตน์ และเพื่อนๆ 

           ตั้งแต่วันนั้นมา มีงานพิเศษใดๆ บนตำหนัก ข้าพเจ้าก็ขึ้นไปพร้อมๆ กับคุณหญิงศรีคำ ถ้าไม่มีงาน เราก็ไปเรียนหนังสือกันตามเคย บางวันเรียกชื่อแล้วกำลังจะเรียน ถ้ามองแต่ไกลเห็นเจ้ามุกดา ณ เชียงใหม่ หรือ น.ส. ประทุม รัตนาคาร เดินยิ้มมาหาคุณครูจันทร์ นักเรียนจะดีใจกันจริงๆ ด้วยนำคำสั่งปิดโรงเรียนมาให้นักเรียนขึ้นไปทำงานบนตำหนัก ครูๆ ก็เลยต้องขึ้นไปทำกับเขาด้วยไม่กล้ากลับไปบ้าน โรงเรียนในวังหยุดบ่อยที่สุด ต้องขยันหมั่นจดท่องเอาเองให้ทันกับหลักสูตรของครูโดยเรียนหลักสูตรของกระทรวง เวลาสอบไล่ไปสอบกับโรงเรียนสายปัญญา คุณหญิงศรีคำยิ่งโตยิ่งดื้อมาก การบ้านวันไหนเป็นวิชาที่ชอบทำ จึงจะทำ ถ้าวิชาไม่ชอบข้าพเจ้าต้องทำให้ด้วยกลัวเขาถูกครูตี ข้อที่ขี้เกียจที่สุด คือเวรทำความสะอาดห้องเรียน ผลัดกันทำเวรละคน พอถึงเวรคุณหญิง ข้าพเจ้าทำให้โดยมีข้อสัญญาว่า เย็นนี้จะต้องตัดผมให้ข้าพเจ้า พอถึงเวรของข้าพเจ้าจริงก็ไปเข็นให้ ม.ร.ว. อาไทย ลดาวัลย์ (พวกสกุลลดาวัลย์ เป็นหลานพระวิมาดาทั้งนั้น) หรือ ม.ร.ว. วัฒนพันธ์ ทำแทน โดยตกลงว่าจะเล่านิทานสนุกๆ ให้ฟัง ทั้งที่นิทานที่เล่าข้าพเจ้าก็กุขึ้นมาเอง เพราะไม่มีหนังสือที่ไหนจะมาอ่าน
          คุณหญิงศรีคำมีพรสวรรค์ที่พิเศษจริงๆ ในเรื่องตัดผม จะเป็นผมบ๊อบ ผมชิงเกิล ผมม้า ผมกระทุ่มคนแก่ ตัดได้หมด ตัดได้สวยด้วยแล้วตัดฟรีด้วย เด็กในวังมาขอให้ตัดกันแทบทุกคน ตอนนี้ชักจะโตรุ่นๆ กันขึ้นมาแล้ว คุณหญิงรุ่นสาว มีความเฉยขรึมพูดน้อยลง ความดื้อรั้นเมื่อสมัยเด็กกลายเป็นความเด็ดขาด เมื่อโตสิ่งใดพูดแล้วๆ กัน ไม่พูดพล่ามทำเพลงเหมือนข้าพเจ้า เวลาคุณหญิงตัดผมให้ข้าพเจ้า เธอจะต้องออกคำสั่งว่า นั่งนิ่งๆ อย่าพูดคุยดุกดิกนะ ไม่งั้นจะตัดไว้ครึ่งหัว อีกครึ่งมาตัดต่อพรุ่งนี้ เวลาตัดผมก็มีเพื่อนๆ มานั่งล้อมดูอยู่ ยากที่ข้าพเจ้าจะอดพูดอดคุยได้ แล้วก็จริงๆ เลย ตัดผมบ๊อบข้าพเจ้าไว้ครึ่งหัว อีกครึ่งให้มาต่อพรุ่งนี้ โทษที่ดุกดิกไม่เชื่อฟัง ข้าพเจ้าจนใจต้องจำยอม ท่านย่าเห็นผมเข้าแทนที่จะกริ้วคุณหญิง กลับกริ้วข้าพเจ้าว่าดีแล้วที่อยากไม่อยู่สุข
          กิจที่เราต้องยกทีมทำกันเป็นล่ำเป็นสัน คือการออกเก็บผลไม้-ดอกไม้ที่ทรงหวงห้าม เพราะพึ่งแรกมี ผลิดอกออกผลใหม่ๆ เช่น ดอกแคทลียาสวยๆ มีมาก หวายช่องาม ดอกไฮเดรนเยียร์สีฟ้าอ่อน กระปุกใหญ่ๆ ผลไม้ที่พวกเราชอบไปเก็บมี สะท้อน ทับทิม มังคุด มะม่วง มะปรางหวาน ฝรั่งขี้นกไส้แดงๆ ไปจนถึงมะดัน เชอรี่ ลูกเลี่ยมซุย มะไฟหวาน ทุกครั้งที่เราแอบชวนกันไปเก็บตอน ๕ ทุ่ม ๒ ยาม คุณวงศ์สินธุ สิงหรา (หลานหม่อมเจ้าหญิงแย้มเยื้อน สิงหรา) จะเป็นผู้ตำพริกกะเกลือห่อไป หม่อมเจ้าหญิงแย้มเยื้อนนี้ ข้าพเจ้าเรียกท่านอา ท่านช่วยกับท่านย่าเลี้ยงข้าพเจ้ามาตั้งแต่ ๑ ขวบ ท่านรักข้าพเจ้ามากกว่าคุณวงศ์สินธุหลานแท้ๆ ของท่าน คุณวงศ์สินธุเป็นคนด่าเก่งปากจัด เป็นหัวโจกแทบทุกกรณี ที่ออกไปล่าดึกๆ และก็ปลอดภัยจากการรู้เห็นของผู้ใหญ่เสียด้วย นับว่าเป็นผู้นำขโมยที่ดีทีเดียว ครั้งหนึ่งตอนบ่ายๆ คุณหญิงศรีคำมาบอกข้าพเจ้าว่า ต้นสะท้อนที่ท่าน้ำข้าหลวงลูกเหลืองเต็มต้น เราไปแอบเก็บกันเถอะ ฉันชวนสุดามาด้วยแล้ว เขาขึ้นต้นไม้เก่ง นางสาวสุดา บูรณศิริ (ธิดาพระยาอรรคราชโยธิน คุณหญิงชมเป็นมารดา) เท่านั้นเราก็เปิดฉากเก็บกันเลย ด้วยตอนบ่ายโมงสองโมงแดดร้อนจัด ผู้ใหญ่ไม่ใคร่มาเดินกัน สุดาขึ้นไปบนต้น ข้าพเจ้ากับคุณหญิงคอยเก็บใส่ถุง ตะโกนคุยกันจากบนต้น คงดังมากแต่เราไม่รู้สึกด้วยกำลังสนุก คุณพระเลื่อนเดินมาข้างหลัง จับตัวข้าพเจ้าและคุณหญิง จูงชนิดลากจะเอาตัวไปฟ้องท่านย่า คุณหญิงตกใจกลัวมาก พอที่คุณพระเลื่อนจะไม่เห็นคุณสุดา ซึ่งกอดอยู่กับกิ่งนิ่งเงียบแทบไม่หายใจ คุณหญิงแหงนหน้าตะโกน สุดาลงมาเหอะ เขาเห็นเราแล้ว สุดาโมโหใหญ่ว่า บอกเขาทำไม เขาไม่เห็นอยู่แล้ว ทีหลังอย่ากินเลย ว่าที่จริงอ้ายสะท้อนมันก็ยังอ่อน ถึงเก็บมากินก็ไม่ได้ แต่ด้วยความซุกซน คุณหญิงตะโกนไปก็เพราะอ่อนหัดไม่ใช่ขโมยในสันดาน อย่าว่าแต่เราเป็นข้าหลวงรุ่นกลางเลย รุ่นใหญ่ก็ขโมยด้วย มันตื่นเต้นสนุกดีจัง ม.ร.ว. เกื้อกมล (นันทวัน) สวัสดิ์สรยุทธ ก็ไปแอบเก็บมะม่วงมัน ให้ น.ส. มาลี มานิตยกุล (ธิดาเจ้าคุณมานิตกุลพัฒน์) เป็นผู้ปีนต้นขึ้นไป ตอนนี้เป็นเวลา ๒ ยามกว่าแล้วกำลังเก็บเพลิน คุณพระเลื่อนเดินมาเรือนพบเข้า ไม่เห็น น.ส. มาลีบนต้น ก็เลยจับคุณหญิงเกื้อกมล จะเอาตัวไปฟ้องท่านโอภาษผู้เป็นท่านอา คุณหญิงเกื้อกมลตกใจกลัวมากปากสั่นบอกคุณพระเลื่อนว่า มาลีเขาอยู่บนต้นอีกคนหนึ่ง" คุณพระเลื่อนจึงเรียกให้ลงมา เห็นมาลีเขาร้องไห้ เลยใจอ่อนเทศนา ๒-๓ คำแล้วปล่อยตัวไป

No comments: